5 รูปแบบความปลอดภัยของการใช้งานด้านไอที คุณทำแล้วหรือยัง ?

5 รูปแบบความปลอดภัยของการใช้งานด้านไอที คุณทำแล้วหรือยัง ?

วันนี้มาเริ่มต้นโดยตั้งค่าการใช้อุปกรณ์ไอทีที่อยู่ใกล้ตัว ให้ปลอดภัยมากขึ้นป้องกันเหตุอาชญากรรมทางไอทีและอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลบนอุปกรณ์ไอทีของคุณไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือไม่ก็ข้อมูลบน Social Network อย่าง facebook, twitter รวมถึงบริการฝากไฟล์ Cloud ของคุณ อาจถูกเจาะระบบ ขโมยข้อมูล หรือทำให้ไฟล์ลับส่วนตัวกลายเป็นสาธารณะ

ตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้ปลอดภัย

  • ตั้งรหัสผ่านการ Login เข้าสู่คอมพิวเตอร์ อย่าปล่อยให้เข้าสู่หน้า desktop โดยอัตโนมัติ
  • ติดตั้งโปรแกรม Anti Virus , Anti Spyware ด้วยโปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ และต้องเป็นของแท้เท่านั้น
  • อัพเดตฐานข้อมูลไวรัสและ สแกนตรวจไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
  • ติดตั้งซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แท้
  • หมั่นอัพเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเพื่อความปลอดภัย
  • อย่าคลิกลิงค์โฆษณาที่เชิญชวนด้วยคำชวนเชื่อเกินจริง ซึ่งอาจมีไวรัสมัลแวร์แฝงอยู่
  • อย่าคลิกลิงค์ที่ส่งมาจากอีเมล หรือจาก Social Network ที่ส่งมาจากคนที่ไม่รู้จัก (แนะนำหากพบควรลบเพื่อนทันที)
  • เมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือท่องเว็บไซต์เสร็จแล้ว อย่าลืมลบ HISTORY
  • การท่องอินเตอร์เน็ต หมั่นตรวจสอบ url ว่าถูกต้องจริงมั้ย ป้องกันการหลงกรอกข้อมูลส่วนตัวให้เว็บไซต์ปลอม
  • การท่องเว็บพวกธนาคาร อีเมล์ , shopping online และบริการอื่น ๆ ที่ต้องใช้ username และ password ลองสังเกตเว็บเบราวเซอร์ว่า มีสัญลักษณ์แม่กุญแจ หรือไม่ ถ้าไม่มีควรหลีกเลี่ยงการใช้งาน เว็บไซต์นั้น
  • ตรวจสอบเว็บหรือไฟล์ว่ามีไวรัสหรือไม่ โดยอัพโหลด หรือนำลิงค์มาตรวจสอบ ที่เว็บไซต์ virustotal.com

การตั้งค่า Social Network ให้ปลอดภัย

  • ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว Privacy ของ facebook ที่นี่>> Facebook-Privacy
  • เอาแอพบน facebook ที่เราไม่ได้ใช้ออกไป ที่นี่>> Facebook-Setting-Application โดยเฉพาะแอพที่เราไม่รู้จัก หรือแอพที่เราไม่ใช้แล้ว ควรเอาออก
  • หากไม่เช็คอินอะไรให้ปิด Location มือถือ และไม่ควรเปิด Location และเช็คอินบ่อย จนคนอื่นรู้ว่า แต่ละวันคุณไปไหนมาบ้าง
  • Login แล้วอย่าลืม Logout เมื่อไม่ใช้ เพื่อความปลอดภัยป้องกันคนอื่นสวมรอยใช้แทนเรา
  • ควรตั้งค่าการรักษาความปลอดภัย ด้วยการตรวจสอบความถูกต้อง 2 ขั้นตอน

การตั้งค่ามือถือแท็บเล็ต ให้ปลอดภัย

  • ตั้งค่าโทรศัพท์ ให้ปลอดภัยขึ้น ด้วยฟีเจอร์ Face Unlock , ตั้งรหัส pin , password , pattern หรือ สแกนลายนิ้วมือ ป้องกันคนอื่นแอบใช้มือถือเรากรณีเราลืมมือถือ หรือโจรขโมยมือถือเราไป
  • ติดตั้งแอพ AntiVirus และอัพเดตให้ฐานข้อมูลไวรัสสม่ำเสมอและควรสแกนเป็นประจำ
  • อย่าทำการ root เครื่องหรือ jailbreak เครื่อง ซึ่งจะนำพาแอพปลอม หรือแอพแฝงไวรัสเข้าสู่เครื่องได้ง่ายขึ้น
  • อ่านรีวิวก่อนโหลดแอพว่าแอพนี้น่าเชื่อถือหรือไม่ ปลอดภัยหรือไม่ อ่านแอพเกี่ยวกับการเข้าถึงส่วนต่าง ๆ ของมือถือว่าเหมาะสมหรือไม่ อย่าโหลดแอพทันทีถ้าคุณไม่รู้จัก ลองอ่านเรื่อง แอพไฟฉายแฮ็คข้อมูลมือถือคุณได้
  • อย่าใช้อุปกรณ์มือถือปลอม
  • อย่าดาวน์โหลดลิงค์จาก sms หรือทางแอพแชต จากคนไม่รู้จัก และอย่าโหลดไฟล์ apk ติดตั้งลงมือถือ
  • ใช้ แอพ Google Authenticator บนมือถือ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยการใช้งานบัญชี Gmail, Google , android
  • ติดตั้งแอพ Find My iPhone  , Android Device Manager ตามหามือถือ กรณีหาย หรือลืม
  • ควรรักษารหัสผ่านบัญชี apple id , google account ไว้เป็นส่วนตัวอย่าให้คนอื่นรู้ และควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน

ตั้งค่าบริการฝากไฟล์บน cloud ให้ปลอดภัย

  • ควรตั้งรหัสผ่าน passcode บนแอพ google drive , onedrive , dropbox อีกชั้นสำหรับมือถือ เพราะส่วนใหญ่มือถือจะทำการ login สู่บริการ cloud โดยอัตโนมัติ
  • หรือถ้าไม่ใช้บริการ cloud ก็ควร Logout ทันที
  • ถ้าเป็นไปได้ควรตั้งค่า ตรวจสอบความถูกต้อง 2 ขั้นตอน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
  • ไม่ควรฝากไฟล์ที่สำคัญมากขึ้น Cloud

การใช้เว็บ e-banking ให้ปลอดภัย

  • อย่าคลิกลิงค์ธนาคารที่ปรากฏบนอีเมล์ หากอยากรู้ให้พิมพ์ url เข้าชมเว็บไซต์ธนาคารเอง
  • ระวังเว็บธนาคารปลอม  ตรวจสอบ url ใช้แน่ใจว่าถูกต้อง
  • อย่าโหลดแอพธนาคารปลอม ที่โหลดจากนักพัฒนารายอื่นที่ไม่ใช่แบรนด์ธนาคาร
  • หมั่นตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคาร ทั้งการปรับสมุดบัญชีและ เช็คผ่านทางเว็บไซต์ e-banking

ที่สำคัญสุดคือ ติดตามข่าวสารไอทีมากขึ้นโดยเฉพาะประเด็นเรื่องข่าวไอที ด้านความปลอดภัย อย่างใกล้ชิด เพราะภัยคุกคามทางคอมพิวเตอร์ มือถือ และอินเทอร์เน็ต เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ  และอาจกระทบถึงอุปกรณ์ หรือบริการไอทีหรือเว็บที่คุณใช้อยู่

ข้อมูลจาก : itday